การตอนกิ่ง
การตอนกิ่ง
การตอนกิ่ง คือการทำให้กิ่งพันธุ์เกิดรากขึ้นในขณะที่ยังติดอยู่กับต้นแม่
ซึ่งต้นไม้บาง ชนิดก็สามารถออกรากได้เองตามธรรมชาติ แต่บางชนิดจะต้องช่วยกระตุ้นกิ่งจึงจะออกรากกิ่งพันธุ์ที่ได้จากวิธีการนี้เรียกว่า
“กิ่งตอน” อย่างไรก็ตาม ต้นพันธุ์ที่ปลูกด้วยกิ่งตอนจะไม่มีรากแก้วจึงอาจมีปัญหาการโค่นล้มได้ง่าย
และไม้ผลบางชนิดต้องใช้เวลานานในการตอน จึงออกรากส่วนใหญ่ติดกับ ต้นไม้ที่มียาง
วิธีนี้เหมาะสมสำหรับไม้ผลบางชนิด เช่น ล้ม มะนาว ลิ้นจี้ ละมุด ชมพู่ ลำไย
รวมทั้งไม้ ดอกไม้ประดับบางชนิด เช่น กุหลาบ ชบา เป็นต้น
วัสดุ/อุปกรณ์
2. ดินใช้สำหรับหุ้มรอยแผลที่ควั่น ควรเป็นดินร่วนซุย ดินผสมปุ๋ยคอก
หรือดินผสมซากที่เน่าเปื่อย เช่น ซากใบก้ามปู ใบทองหลางกับมูลวัวหรือ มูลกระบือ
3.ฮอร์โมนใช้สำหรับกระตุ้น หรือกะปิ ทาบริเวณที่ควั่นกิ่ง
6. แผ่นพลาสติกหรือใบตองแห้ง
ใช้สำหรับหุ้มกาบมะพร้าวอีกชั้นหนึ่ง
ขั้นตอน/วิธีตอนกิ่ง
1. เลือกกิ่งที่จะตอนจากต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์
แข็งแรง ปราศจากโรคและแมลงรบกวน เลือกกิ่ง ที่ไม่อ่อนและแก่จนเกินไป ยาวประมาณ
6-12 นิ้ว อายุประมาณ 6-12 เดือน และมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเท่า แท่งดินสอดำหรือไม่เกิน
1 เซนติเมตร เป็นกิ่งที่แตกออกจาก สำต้น หรือส่วนยอดของสำต้น มีข้อตาสม่ำเสมอ
ถ้ายอดคลี่ ไม่เต็มที่หรือยังอ่อนอยู่ไม่ควรเลือกกิ่งนั้น และไม่ควรเลือก
กิ่งที่แก่เกินไป เพราะเปลือกจะลอกยากและออกรากน้อย
เมื่อตัดกิ่งไปปลูกทำให้ยากต่อการดูแลรักษา
3. กรีดระหว่างรอยควั่น แกะเปลือกออก ขูดเนื้อเยื่อบนกิ่งออกให้หมด
โดยขูดจากยอดลงมาหาโคน
ระวังอย่าให้เปลือกบนช้ำเพราะรากจะออกทาง
ด้านบน หากกิ่งพันธุ์มียาง ควรผึ่งยางให้แห้งเสียก่อน
4. ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
ทาฮอร์โมนเร่งรากหรือกะปิบริเวณรอยแผลส่วนบน
5. หุ้มด้วยขุยมะพร้าวอุ้มน้ำหมาดๆ
แล้วห่อทับด้วยพลาสติก มัดเชือกให้ แน่นทั้งบนและล่าง
6. ประมาณ 25-30 วัน จะมีรากสีขาวเกิดขึ้นในถุงพลาสติก
รอจนมีราก มากพอ สามารถตัดและนำไปปักชำก่อนนำไปปลูกในสวน
การใช้ประโยชน์
1. ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้ความชำนาญมากมัก
2. ให้ผลผลิตเร็วกว่าการปลูกด้วยเมล็ดและการปักชำ
เมื่อเปรียบเทียบ
กับพืชชนิดเดียวกัน
3. ทำให้ไม่กลายพันธุ์
ต้นพืชใหม่ที่ได้จะให้ดอก ผล เหมือนต้นเดิมทุกประการ
มีทรงต้นเป็นพุ่มไม่สูงใหญ่จนเกินไป สะดวกต่อการดูแลรักษาและเก็บ
ไม่มีความคิดเห็น " การตอนกิ่ง "