รูปที่
2 การทำหัวเชื้อจุลินทรีย์ที่มีคุณภาพ
ประโยชน์หัวเชื้อจุลินทรีย์
จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายซากพืช
ซากสัตว์ ให้กลายเป็นสารอาหารแก่พืช โดยจุลินทรีย์ สามารถเกิดได้เองตามธรรมชาติ
ซึ่งจุลินทรีย์ที่มีประลิทธิภาพจะสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินแบ่ง ประโยชน์ของหัวเชื้อจุลินทรีย์ได้
ดังนี้
ด้านเกษตร
ช่วยปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างในดินและน้ำช่วยแก้ปัญหาจากแมลง ศัตรูพืช
และโรคระบาดต่างๆ ช่วยปรับสภาพดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำ และให้อากาศผ่านได้อย่างเหมาะสม
ช่วยย่อยสลาย อินทรียวัตถุให้เป็นอาหารแก่พืช
ด้านปศุสัตว์
ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นจากฟาร์มปศุสัตว์ไก่ และสุกร ได้ช่วยกำจัดน้ำเสีย
จากฟาร์มได้ภายใน 1 -2 สัปดาห์ช่วยกำจัดแมลงวันด้วยการดัดวงจรชีวิตของหนอนแมลงวันไม่ให้เข้า
ดักแด้เกิดเป็นตัวแมลงวัน ช่วยเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยงทำให้สัตว์แข็งแรง
ด้านการประมง
ช่วยควบคุมคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำได้ช่วยแก้ปัญหาโรคพยาธิในน้ำซึ่ง
เป็นอันตรายต่อกุ้ง ปลา กบ หรือสัตว์อื่นที่เลี้ยงได้ช่วยลดปริมาณ
ขี้เลนในบ่อช่วยให้เลนไม่เน่าเหม็น สามารถนำไปผสมเป็นหมักใช้กับพืชต่างๆ ได้ดี
ด้านสิ่งแวดล้อม ช่วยบำบัดน้ำเสียจากวิธีทำการเกษตร
การปศุสัตว์การประมง โรงงานอุตสาหกรรม ชุมชน และสถานประกอบการทั่วไป
ช่วยกำจัดกลิ่นจากกองขยะ ช่วยปรับสภาพ ของเสีย เช่น เศษอาหารจากครัวเรือนให้เป็นประโยชน์ต่อการเลี้ยงสัตว์และการเพาะปลูกพืช
การเพาะเลี้ยงจุลินทรืย์ (ดินระเบิด) หรือจุลินทรืยํในพื้นที่ (IMO)
ส่วนประกอบ
1.ดินสมบูรณ์ 1 กิโลกรัม
2.รำละเอียด 1 กิโลกรัม
3.รำอ่อน 72 กิโลกรัม
4.น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำเปล่า 1 - 3 แก้ว
วิธีทำ
1.นำดินที่อุดมสมบูรณ์ในท้องถิ่นหรือในป่าที่อุดมสมบูรณ์
เช่น ใต้ต้นไมใหญ่หรือ บริเวณกอไผ่ที่มีใบไม้ทับถมและย่อยสลายดีแล้ว กวาดใบไม้อกขุดลึกลงไป
ประมาณ 10-20 เซนติเมตร ให้นำรากพืชมาด้วยคลุกรำละเอียดและน้ำตาล2 ช้อนโต๊ะ
แล้วเติมน้ำเปล่าประมาณ 1 - 3 แก้ว บันเป็นก้อน วางไว้ในที่อากาศ ถ่ายเทสะดวกหรือความชื้น
65 เปอร์เซ็นต์ เอามือกำจนไม่มีน้ำไหลออกตามร่องมือ
2.เพาะเลี้ยงไว้
2 - 3 คืน จะเป็นก้อนแข็งและมีราสีขาวเกิดกระจายทั่วไป
การใช้ประโยชน์
1.นำก้อนดินที่ได้โยนใส่บ่อบำบัดน้ำเสีย จะช่วยบำบัดน้ำเสียให้กลายเป็นน้ำดีได้
2.ช่วยย่อยสลายปุ๋ยหมัก
3.ย่อยสลายไขมัน ท่ออุดตัน
4.ช่วยปรับสภาพดินให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก
การผลิตขยายเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า วัสดุอุปกรณ์
1.หัวเชื้อไตรโคเดอร์ม่า
2.หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
3.ถุงพลาสติกทนร้อน
3.ปลายข้าว
4.ยางวงและแม็กเย็บกระดาษ
ขั้นตอน/วิธีการทำ
1.นำเมล็ดข้าวฟ่างแดงหรือเมล็ดข้าวเปลือกประมาณ 800 กิโลกรัม
มาล้างให้สะอาด แล้วแช่น้ำไว้ประมาณ 12-14 ชั่วโมง
2.นำเมล็ดข้าวฟ่างแดงที่แช่น้ำแล้วไปต้มน้ำเดือด (ประมาณ 15
นาที) แล้วตักออก ผึ่งบนตะแกรง ให้แห้งพอหมาดๆ แล้วนำไปบรรจุถุงพลาสติกทนความร้อน
ถุงละ 500 กรัม
3.ใส่คอขวดพลาสติกแล้วปิดด้วยจุกสำลีแล้วใช้กระดาษอลูมิเนียมหรือกระดาษปิด
ทับอีกชั้นหนึ่ง
4.นำถุงเมล็ดข้าวฟ่างแดงไปนึ่งในหม้อนึ่งความดัน
เพื่อทำการฆ่าเชื้อโรค ด้วยอุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียล ความดัน 15
ปอนด์ต่อตารางนิ้ว นาน 30 - 60 นาที (ถ้าเป็นหม้อนึ่งลูกทุ่งใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง)
5.นำถุงเมล็ดข้าวฟ่างออกจากหม้อนึ่ง ทิ้งไวให้เย็น
จากนั้นจึงนำไปใส่หัวเชื้อรา ไตรโคเดอร์ม่าต่อไป
6.เมื่อใส่หัวเชื้อราในถุงเมล็ดข้าวฟ่างแดงเสร็จแล้ว
ให้นำไปเก็บไว้ในห้องหรือในร่มใต้ ถุนบ้าน ไม่ให้ถูกแสงแดด รออีกประมาณ 10 -15 วัน
ก็สามารถนำเชื้อรา ไตรโคเดอร์ม่าไปฉีดพ่นควบคุมโรคพืชต่อไป
การใช้ประโยชน์
1.ใช้เพื่อป้องกันโรค (พืชยังไม่แสดงอาการของโรค) เริ่มตั้งแต่การเพาะเมล็ดการเตรียมด้นกล้าพืช
การปลูกในสภาพธรรมชาติ จนถึงระยะพืชเจริญเติบโตให้ ผลผลิต
2.การใช้เพื่อรักษาโรค (พืชแสดงอาการของโรคแล้ว) การใช้เชื้อรานี้เพื่อรักษาพืชที่เป็นโรคแล้วนั้นเหมาะสำหรับพืชยืนต้นเช่นไม้ผล
แต่ถือว่าเป็นวิธีที่มีความเสี่ยง เพราะอาจไม่ประสบผลสำเร็จตามที่คาดหวัง
จึงควรใช่วิธีอื่นร่วมด้วย หากมี การระบาดของโรคอย่างรุนแรง
ไม่มีความคิดเห็น " การทำหัวเชื้อจุลินทรีย์ "